15 August 2025

An economic evaluation of second-generation long-acting injectable antipsychotics for the treatment of patients with schizophrenia at high risk of violent behavior.

research cover
View Count
68
Share this research
Project Code 68123030RI011L0
Country
Thailand
Project Duration
Start : 1 April 2025
End : 1 January 2026
Research Status
Ongoing 35%
Complete Research Report
Quantity 0 files
Download Count
0 times
15 August 2025

An economic evaluation of second-generation long-acting injectable antipsychotics for the treatment of patients with schizophrenia at high risk of violent behavior.

About Project

Content

ยาต้านโรคจิตรูปแบบฉีดออกฤทธิ์นาน (long-acting injectable antipsychotics) เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรง โดยมีข้อดีคือ สามารถออกฤทธิ์ได้นานตั้งแต่ 1 ถึง 3 เดือนหลังจากฉีดเพียงครั้งเดียว จึงช่วยลดปัญหาการขาดยาในผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนว่า ยาต้านโรคจิตรูปแบบฉีดออกฤทธิ์นานดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคและลดอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ดีกว่ายาต้านโรคจิตชนิดรับประทาน

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเพียงยาต้านโรคจิตชนิดรับประทานและชนิดฉีดออกฤทธิ์นานรุ่นที่ 1 ที่ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ (ก-ง) และมี Aripiprazole และ Paliperidone ซึ่งเป็นยาต้านโรคจิตชนิดฉีดออกฤทธิ์นานรุ่นที่ 2 ที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ จ(1) สำหรับใช้ในโครงการนำร่องและติดตามการใช้ยาในผู้ป่วยจิตเภท (schizophrenia) และผู้ป่วยโรคอารมณ์สองขั้ว (bipolar disorder) ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง ภายใต้การดำเนินงานของกรมสุขภาพจิตและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ด้วยเหตุนี้ คณะทำงานด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ภายใต้คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ จึงได้มอบหมายให้มูลนิธิเพื่อประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (Health Intervention and Technology Assessment Program Foundation หรือ HITAP) ดำเนินการจัดทำข้อเสนอโครงร่างการประเมินความคุ้มค่าของยาต้านโรคจิตชนิดฉีดออกฤทธิ์นานรุ่นที่ 2 ได้แก่ Aripiprazole และ Paliperidone สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภทที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง โดยเปรียบเทียบกับยาต้านโรคจิตที่มีอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติในปัจจุบัน ทั้งนี้ ผลการศึกษาจะนำไปใช้ประกอบการพิจารณาพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านยาเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยในอนาคต

Research Type
Related Technologies
Funding Source

Related Organizations/
Supporting Organizations

Organization placeholder