ปัจจุบันอัตราส่วนของค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพ (health expenditure) ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 5 และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการอุบัติขึ้นของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบให้บริการสาธารณสุข ภาคเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ภาครัฐต้องทุ่มทรัพยากรที่มีอ

โรคติดเชื้อ Human Papillomavirus (HPV) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยและสามารถแพร่กระจายได้ง่ายเพียงการสัมผัสทางผิวหนัง (skin-to-skin contact) โดยการติดเชื้อดังกล่าวก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น หูดและมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์ รวมถึงมะเร็งปากมดลูกที่พบได้บ่อยในเพศหญิง ประเทศไทยได้บรรจุวัคซีนที

เพดานความคุ้มค่า (cost-effectiveness threshold: CET) เป็นเครื่องมือที่ใช้ประกอบการตัดสินใจในระดับนโยบาย โดยใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการแปลผลการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ประเทศไทยใช้วิธีการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาบรรจุชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health C

ความสามารถของมนุษย์อาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ในทางกลับกันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะเพิ่มขีดความสามารถขึ้นไปได้เรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด รัฐบาลทั่วโลกจึงได้ริเริ่มยุทธศาสตร์เพื่อใช้ประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ในการแพทย์ให้ได้มากที่สุดและอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์สามารถสนับสนุนการตัดสิ

การศึกษาวิจัยนี้ดำเนินการภายใต้กรอบแนวคิดการสร้างส่วนร่วมเพื่อพัฒนานโยบายโดยกลุ่มผู้ป่วยและประชาชนในชุมชน (Patient and public involvement หรือ PPI) ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยที่อาศัยความร่วมมือในลักษณะเชิงรุกระหว่างผู้ป่วย ผู้ดูแล ผู้ปฏิบัติงาน ที่อยู่ในสภาพบริบทจริงของปัญหาวิจัยนั้น ๆ กับนักวิจัยที่มีอง

การประเมินความคุ้มค่าแบบ Distributional Cost-Effectiveness Analysis (DCEA) เป็นการประเมินความคุ้มค่ารูปแบบใหม่ ที่ผนวกประเด็นความไม่เสมอภาค เข้าเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ จากการดำเนินการในระยะที่ 1 ผลการศึกษาที่ได้ ประกอบด้วย การประเมินสถานการณ์กระจายตัวด้านสุขภาพในประเทศ

ปัจจุบัน ประชากรโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากร โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนผู้สูงอายุและการลดลงของอัตราการเกิด ส่งผลให้ระบบสุขภาพต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ  นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิต ส่งผลให้โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseas

เอกสารนี้แสดงผลการวิจัยเพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าแบบต้นทุน-อรรถประโยชน์ของนโยบายการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลในเด็กวัยเรียนของประเทศไทย โดยเปรียบเทียบระหว่างนโยบายการให้วัคซีนในเด็กวัยเรียนอายุระหว่าง 2 ถึง 17 ปีในรูปแบบต่างๆ เปรียบเทียบกับ นโยบายปัจจุบันที่ไม่มีการให้วัคซีนในเด็กวัยเรียน

เอกสารฉบับนี้กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตในประเทศไทย เน้นไปที่ “ช่องว่าง” ของการเข้าถึงบริการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ภาครัฐจัดขึ้น รวมทั้งปัจจัยอันเป็นอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจพัฒนานโยบายและการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดการ “เติมเต็ม” ช่องว่างดังกล่าว